ไต้หวัน ประเทศที่น่าจับตา และมีความสำคัญมากกับทั้งโลก /โดย ลงทุนแมน
นิตยสาร The Economist ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 2021
พาดหัวข่าวว่า “The Most Dangerous Place on Earth”
หรือ “สถานที่อันตรายที่สุดในโลก” พร้อมรูปประกอบเป็นแผนที่ไต้หวันในจอเรดาร์
เนื้อหาส่วนหนึ่งในนิตยสาร ยังพูดถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้
ระหว่างไต้หวันและจีน ที่อาจก่อให้เกิดสงครามได้ทุกเมื่อ
รายละเอียดของเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ทำไมที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างไต้หวัน ถึงมีความสำคัญมากกับทั้งโลก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ไต้หวัน หรือชื่อทางการคือ “สาธารณรัฐจีน”
ขึ้นชื่อว่ามีความขัดแย้งกันทางอุดมการณ์ทางการเมือง
กับจีนแผ่นดินใหญ่มาเป็นเวลานาน
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พลเรือเอก Philip S. Davidson
อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งปลดประจำการจากการปฏิบัติหน้าที่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา
กล่าวต่อรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา ว่าทางการจีนกำลังเพิ่มอิทธิพลในทะเลจีนใต้ และมีความเป็นไปได้ว่าภายในปี 2027 จีนจะบุกเข้ายึดเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่แห่งนี้
ซึ่งถ้าหากว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ก็มีการคาดการณ์กันว่า จะเกิดผลกระทบไปทั่วโลกโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ
เนื่องจากไต้หวัน เป็นที่ตั้งของบริษัท TSMC ที่มีเทคโนโลยีในการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
และถือเป็นฐานการผลิตหัวใจของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่างชิปเซต รายสำคัญของโลก
ซึ่งแน่นอนว่าท่าทีของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นคู่ฟัดคู่เหวี่ยงของจีน
จะต้องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และในขณะที่อุณหภูมิทางการเมืองโลกกำลังร้อนระอุขึ้น
บทบาทของไต้หวันในเวทีการค้าโลก ก็เพิ่มความสำคัญมากขึ้นทุกทีด้วยเช่นกัน
สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่ร้อนระอุ
ทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกนโยบาย
ให้บริษัทสัญชาติอเมริกัน ตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน
ทำให้บริษัทไต้หวันที่รับผลิตและประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์เทคโนโลยีให้แบรนด์สินค้าอเมริกัน อย่าง Foxconn, Pegatron และ Wistron ต้องเลือกตัดความสัมพันธ์กับบริษัทจีน และบางส่วนทยอยย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปประเทศอื่น หรือกลับมาลงทุนในไต้หวัน
ในช่วงเวลาเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันหลายแห่ง
ก็เริ่มมาลงทุนในเกาะไต้หวัน ยกตัวอย่างเช่น
- AWS (Amazon Web Services)
ได้มาจัดตั้งสถานที่วิจัยทดลอง Internet of Things
หรือ AWS IoT Lab แห่งแรกในเอเชียที่ไต้หวัน
- Google
ลงทุนกว่า 260,000 ล้านบาท ในการตั้งศูนย์วิจัยพัฒนางานด้านต่าง ๆ รวมถึงก่อสร้าง Data Center แห่งที่ 5 ในเอเชีย และเป็นแห่งที่ 3 ในไต้หวัน
- Microsoft
ได้ลงทุนในไต้หวันมากที่สุดในรอบ 31 ปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 369,000 ล้านบาท
จัดตั้ง Microsoft Azure Data Center ธุรกิจให้บริการเก็บข้อมูล ที่ทาง Microsoft คาดว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อีกมากในอนาคต
ปัจจัยอีกหนึ่งข้อ ที่ทำให้ไต้หวัน สำคัญกับเศรษฐกิจโลกมากในเวลานี้
ก็เพราะเกาะแห่งนี้ โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 65%
ซึ่งนอกจาก บริษัท TSMC ที่เราจะคุ้นหูกันแล้ว
ก็ยังมีบริษัทผลิตชิปอีกหลายบริษัทที่มีความสำคัญ และมีศักยภาพในการผลิตระดับแนวหน้าของโลก
เช่น United Microelectronics Corporation (UMC) และ Powerchip Technology Corporation (PSMC)
จุดเด่นอีกข้อของเกาะไต้หวัน คือมีขนาดพื้นที่เพียงแค่ประมาณ 36,000 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นเพียงแค่ไม่ถึง 1 ใน 10 ของพื้นที่ประเทศไทย
ซึ่งด้วยพื้นที่ที่เล็ก ทำให้บริษัทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันค่อนข้างมาก
ไต้หวันยังเป็นไม่กี่ประเทศ ที่เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา ที่มีวิกฤติโรคระบาด
โดย GDP ของไต้หวันในปี 2020 เติบโต 2.98%
ซึ่งอัตราการเติบโตนี้ สูงกว่าประเทศจีนที่ GDP โต 2.27% เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
โดยปัจจัยที่ทำให้ GDP ของไต้หวันยังคงเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา สวนทางกับหลายประเทศทั่วโลก
ก็เกิดมาจากหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น
1. ความต้องการชิป ชิ้นส่วน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มากขึ้นตามกระแส Work From Home และการเริ่มใช้งานระบบ 5G
ซึ่งไต้หวันที่เป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ก็แน่นอนว่าได้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้
2. การขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้มีความต้องการชิ้นส่วนประกอบจากบริษัทในไต้หวันมากขึ้น
อย่างเช่น Tesla หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้บริการบริษัทผลิตชิ้นส่วนจากบริษัทของไต้หวันหลายสิบแห่ง เช่น
- Quanta Computer ผู้ผลิตอุปกรณ์ชาร์จไฟที่ใช้ในแท่นชาร์จไฟฟ้ารถ Tesla
- Innolux Corporation ผู้ผลิตจอแสดงผลที่ใช้ภายในตัวรถ
- Pegatron ผู้ผลิตอุปกรณ์ควบคุมการทำงานทุกอย่างของรถ
- Delta Electronics บริษัทแม่ของเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ที่รับผลิตระบบควบคุมไฟฟ้าให้รถยนต์หลายแบรนด์
3. ความต้องการในชิ้นส่วนข้อ 1 และข้อ 2 ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งทางทะเลและทางอากาศ พลอยได้รับ
อานิสงส์ไปด้วย
แม้ว่าตั้งแต่กลางปี 2020 จะมีเครื่องบินจากกองทัพจีน
บินเข้าเขตน่านฟ้าไต้หวันอยู่เป็นประจำ
และทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภาวะสงครามกันอยู่เป็นระยะ
แต่ในเวลานี้ ไต้หวันเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ให้กับชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าทั้ง 2 ประเทศคงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงกับเกาะไต้หวัน
สรุปแล้วถ้าดูจากปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และการเมือง
ไต้หวัน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่อันตรายสุดในโลก
แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศนี้ก็ถือเป็นหนึ่งสถานที่ ที่มีความสำคัญกับทั่วโลกมากด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะความสำคัญกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ที่ไต้หวันมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 65% ของตลาดโลก
ซึ่งหากจีนแลกหมัดทำสงครามกับไต้หวันและพันธมิตรจริง ๆ
ก็แทบไม่ต้องคิดเลยว่า ผลกระทบต่อทั่วโลก จะหนักหนาสาหัสขนาดไหน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://udn.com/news/story/122145/5427194
-https://www.techbang.com/posts/85731-us-japan-semiconductor-alliance-us-japan-semiconductor
-https://ec.ltn.com.tw/article/paper/1414454
-https://www.digitimes.com.tw/iot/article.asp?cat=130&cat1=40&id=0000555123_1ae2ekyv1tz1xu4lbxoy2
-https://technews.tw/2021/01/15/microsofts-largest-investment-in-taiwan-in-31-years/
-https://www.chinatimes.com/newspapers/20210416000185-260202
-https://money.udn.com/money/story/5599/5377117
-https://www.chinatimes.com/newspapers/20210130000104-260202?chdtv
-https://www.chinatimes.com/newspapers/20180119000241-260202?chdtv
-https://www.cw.com.tw/article/5101653?template=transformers
-https://finance.technews.tw/2021/03/13/the-secret-of-deltas-stock-price-surge/
-https://www.storm.mg/article/3412487?mode=whole
-https://www.bnext.com.tw/article/60272/taiwan-aviation-industry-finacial-lost-q3
-https://ctee.com.tw/news/stock/453874.html
-https://www.bbc.com/zhongwen/trad/chinese-news-56814382
-https://heho.com.tw/archives/172810
aws price 在 คุยการเงินกับที Facebook 的最讚貼文
หุ้น Amazon : “วันนี้ยังคงเป็นวันนับหนึ่ง” วลีเด็ดเเห่งยักษ์ใหญ่ ecommerce
AMZN-Amazon.com,Inc.
Price : 3306.37$ (07/05/2021)
PE(FWD) : 61.17
Market cap : 1.65 ล้านล้านเหรียญ
Amazon.com ยักษ์ใหญ่เเห่งอาณาจักรค้าปลีกออนไลน์ ที่สร้างความเปลี่ยนเเปลงให้กับยุคสมัย โดยผู้ก่อตั้งนามว่า “เจฟ เบซอส” เจฟ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ ในเเง่ของธุรกิจเเละ การลงทุนอย่างมาก ถ้าใครได้ติดตามเขา จะรู้ว่า เจฟ มีประโยคเด็ด ในการประชุมผู้ถือหุ้นเสมอ ถ้าได้อ่านรายงานการประชุมทุกปี คือ “Day1”
เจฟ นำหลักเเนวความคิดว่า “Day1” มาใช้ ทั้งในการสร้างธุรกิจ เเละ สร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้คนในบริษัทมองว่า เรายังเป็นเเค่เพียงวันเเรก ที่ต้องเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ เเละ ไม่หยุดพัฒนาตัวเองเสมอ
ซึ่งได้มีคนมาถามเขาเหมือนกันว่า “เเล้วเมื่อไหร่จะ Day2 หละเจฟ?” (ซึ่งก็เป็นคำถามที่น่าสนใจเหมือนกัน555555)
เจฟบอกว่า Day2 จะทำให้เป็นเหมือนบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัท ที่คิดว่าตนเองสำเร็จเเล้ว เเละยึดกับความสำเร็จเดิมๆ ทำให้เขามองว่าน่ากลัวมาก เพราะ จะทำให้เราไม่ก้าวไปไหน
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเเนวคิดที่ตอกย้ำความสำเร็จให้เขาเเตกต่างจากคู่เเข่งรายอื่นๆ ก็คือ “Customer Centric” หรือ การใช้ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง ทำให้เขาสามารถคิดค้นนวัตกรรมฝหม่ๆ มาให้ลูกค้าก่อนที่ลูกค้าจะรู้ตัวเสียอีก อย่าง การทำ Amazon prime ,AWS(Amazon Web Service ) ,Kindle , Amazon fullfillment เเละอีกมากมาย
ซึ่งเจฟได้ให้ความเห็นอันนี้ต่อ การ disruption ว่า อีกสิบปีผ่านไป สิ่งหนึ่งที่ตะไม่เปลี่ยนก็คือ ลูกค้า คุณต้องหาว่าลูกค้าต้องการอะไร ที่ดีที่สุด เเล้วคุณจะไม่กลัวการ disrupt เลย เพราะเราจะหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูกค้าอยู่เเล้ว ซึ้งนั้นมักจะเป็นนวัตกรรมไปในตัว
โดยเจฟ ทำให้ Amazon.com ที่เป็นบริษัทที่ขาดทุน(ทางบัญชี) มานานหลายสิบปี เเต่ มีกระเเสเงินสดค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะเขามักจะนำ เงินจากกำไรเพื่อไปลงทุนต่อ เพราะเขาเขื่อ ว่า สิ่งที่สำคัญในการลงทุนเเละทำธุรกิจคือการมอง ยาวๆ เเละ การลงทุนเพื่อไปสร้างกระเเสเงินสดในอนาคตซึ่งนับว่าสำคัญกว่า ตัวเลขกำไรทางบัญชีในปัจจุบัน
เพื่อนๆ จะเห็นว่า เเนวความคิดที่เขาได้เเสดงออกมาย้ำให้เห็นถึง ความใส่ใจในรายละเอียด เเละ พร้อมสู่ชัยชนะ อย่างมาก พร้อมทั้งความรู้ความเข้าใจต่อเเนวความคิดในการลงทุนระยะยาวอีกด้วย
.........
งั้นเรากลับเข้าเรื่องดีกว่า ว่า เเล้วหุ้น Amazon.com จะยังคงน่าลงทุนอยู่หรือไม่?
การจะลงทุนได้นั้น คงต้องมองจากปัจจัยว่า บริษัทนี้ยัง เติบโตได้หรือไม่ เเละ จะยังสามารถเเข่งขันในตลาดอันดุเดือดนี้ได้ในระยะยาวหรือไม่
ทีนี้มาดูกันว่าโครงสร้างได้ Amazon ประกอบด้วยอะไรบ้าง....
•retail product
•retail third party seller
•AWS
•subscription
•others (ads,cobranded,..etc)
...........
ซึ่งในQ1 2021 ทุกคนน่าจะได้เห็นเเล้วว่า รายได้ยังเติบโตถึง 44% เเละ มีกำไรเติบโตถึง 3หลัก จาก 2.5พันล้านเหรียญไป ถึง 8.1 พันล้านเหรียญ!!
เพราะมีการเติบโตจาก ทั้ง ผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนของโควิด19 เเละ การเข้ามาของผู้ขายที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ ผู้ใช้งานได้รับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ไปอีก
ในฝั่งของ ธุรกิจ startup ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็ยังทำให้ AWS ของ amazon เติบโตได้อย่างดี ซึ่งให้บริการด้าน cloud computing ซึ่งกิน market share ถึง 32% อันดับหนึ่งของโลก (Azure ของ microsoft เป็นอันดับ2 ที่20%) เพราะเเม้เเต่ Airbnb ,Netflix ก็ใช้ของ AWS
........
ในเเง่ของความยั่งยืนของตัวธุรกิจ ย่อมเกิดจาก เเนวความคิด ของ เจฟ ที่ได้สร้างไว้ว่า ผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้นเเล้ว Amazon เเทบไม่ได้สนว่าคู่เเข่งจะทำอะไร กลับกัน มองว่าผู้บริโภค ต้องการอะไรมากขึ้นเรื่อย เเละ สร้างนวัตกรรมให้ผู้บริโภคใช้งานได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้น
จึงมีปราการที่ค่อนข้างชัดเจน ในเเง่การเปลี่ยนเเปลงของผู้บริโภคไปใช้คนอื่น(switching cost)
........................................
ติดตามข้อมูล เศรษฐกิจ การลงทุนในต่างประเทศ ในไทย ได้ที่คุยการเงินกับที
........................................
Ref :
หนังสือ invent & Wander
Amazon Q1 2021 earnings report
https://www.investopedia.com/amazon-q1-2021-earnings-report-recap-5181230
AWS market share
https://www.statista.com/chart/18819/worldwide-market-share-of-leading-cloud-infrastructure-service-providers/
Amazon: The Most Clearly Undervalued Company
https://seekingalpha.com/article/4424794-amazon-clearly-undervalued-company
Trin T
aws price 在 eCloudvalley Facebook 的精選貼文
【 Sign Up Before Price Adjustment !! 】
AWS Training course list price is going to increase by 20% from 1 April.
Grab the last chance to sign up for eCloudvalley special offer:
Register AWS Technical Essentials + Architecting on AWS with our special price and get:
SAA Exam voucher + Exam Readiness Workshop + 2 Labs Token (Value: HKD 6000) !!
>> Sign up for more information: https://www.ecloudvalley.com/prog…/limited-training-package/
aws price 在 Introduction to AWS Pricing - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>